สมาคมสอยคิวไทย จับมือ ทรู-การกีฬาแห่งประเทศไทย ระเบิดศึกสนุกเกอร์ 7 รายการทั่วประเทศไทย พร้อมประกาศเพิ่มเงินรางวัลให้ยกระดับก้าวไปสู่อาชีพอย่างเต็มรูปแบบ

นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายอาชีพและสิทธิประโยชน์ ร่วมกับ นายขจร เจียรวนนท์ กรรมการบริหาร บ.ทรูวิชันส์ จำกัด(มหาชน) และนายสินธุ พูนศิริวงศ์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งคณะบริหาร และเจ้าภาพจัดการแข่งขัน 7 สนาม แถลงข่าวการแข่งขันสนุกเกอร์รายการสะสมคะแนน ดิวิชั่น 1 ประเทศไทย “True Thailand Ranking Circuit 2014” เมื่อวันพุธที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอรีน พระราม 9 ท่ามกลางสื่อมวลชนและนักกีฬาที่เข้าร่วมงานกันอย่างคึกคัก

นายสกล กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย สนับสนุนกีฬาอาชีพ 13 ชนิด เพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศ โดยเฉพาะวงการสอยคิว ที่พัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นกีฬาที่น่าสนใจอย่างมาก เท่าที่ทราบมานั้นมีผู้ชมแน่นแทบจะทุกสนาม ดังนั้น กกท.พร้อมหนุนอย่างเต็มที่และต่อเนื่องเหมือนเดิม

          ทางด้าน นายขจร เจียรวนนท์ เผยว่า บริษัทของเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาสนับสนุนการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่ง ทรู พร้อมจะร่วมมือกับสมาคมฯเพื่อส่งเสริมกีฬาชนิดนี้ให้เป็นที่แพร่หลายยิ่งๆขึ้นไป โดยก่อนหน้านี้ ทรู ได้ทำการถ่ายทอดสดสนุกเกอร์ระดับโลกต่อเนื่องมาโดยตลอด

          ขณะที่ นายสินธุ กล่าวว่า สมาคมฯของเราต้องขอขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน และเจ้าภาพทุกสนามที่ร่วมกันจัดการแข่งขันในปีนี้ ซึ่งรายการสะสมคะแนนนี้ยืนหยัดมานานกว่า 10 ปี พร้อมกับมีนักสอยคิวเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี พร้อมกันนี้ได้มีการเพิ่มเงินรางวัลให้กับนักกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันครั้งนี้ในทุก ๆ รอบอีกด้วย โดยการันตีว่า นักกีฬาทั้ง 64 คนในแรงกิ้งดิวิชั่น 1 จะได้รับเงินรางวัลทุกคน

            “รายการที่ 1 ไปจนถึงรายการที่ 6 แชมป์จะได้รับเงินเป็น 110,000 บาท รวมเงินรางวัลแต่ละรายการจะอยู่ที่ 926,000 บาท ส่วนรายการที่ 7 รายการสำคัญนั่นคือชิงแชมป์ประเทศไทย จะชิงเงินรางวัลรวมถึง 1,076,000 บาท ซึ่งแชมป์จะได้เงิน 120,000 บาท เพื่อที่เราจะยกระดับให้เป็นการแข่งขันแบบอาชีพอย่างแท้จริง” นายสินธุ กล่าว

            ส่วน “คิวทอง” นายศักดา รัตนสุบรรณ อุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ กล่าวว่า ปีนี้เราจะมีนักกีฬาชั้นนำของประเทศไทยเข้าร่วมดวลคิวอย่างคับคั่ง พร้อมกับได้นักกีฬาระดับเอเชีย และระดับโลกมาร่วมเป็นมือไวลด์คาร์ดเหมือนเดิม พร้อมกันนี้ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม นักสอยคิวขวัญใจชาวไทยก็จะกลับมาร่วมแข่งขันแน่นอน

          สำหรับโปรแกรมการแข่งขันรอบสุดท้ายทั้ง 7 รายการมีดังนี้ รายการที่ 1 วันที่ 3-9 มีนาคม สนามกีฬากลาง นครสวรรค์รายการที่ 2 วันที่ 1-6 เมษายน โรงยิมเนเซี่ยม 4000 ที่นั่ง นครปฐมรายการที่ 3 วันที่ 22-27 เมษายน โรงแรมพชร สุพรรณบุรี, รายการที่ 4 วันที่ 12-18 พฤษภาคม ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี, รายการที่ 5 วันที่ 2-8 มิถุนายน หอประชุมโรงเรียนเขาสามยอดวิทยา จังหวัดลพบุรี, รายการที่ 6 วันที่ 19-24 สิงหาคม เนวาด้า มัลติเพล็กซ์ อุบลราชธานี และรายการที่ 7 ชิงแชมป์ประเทศไทย วันที่ 21-26 ตุลาคม โรงแรมมณีจันทร์ รีสอร์ท จันทบุรี

            ทั้งนี้ การแข่งขันจะทำการถ่ายทอดสดผ่านทาง สยามสปอร์ตไลฟ์ ทรูวิชันส์ 97 และทรูสปอร์ต ส่วนรอบชิงชนะเลิศ ถ่ายทอดสดทางช่อง 11

Go to www.cuethong.com