ศัพท์เทคนิค (ต่อ) |
||
«« ก่อนหน้า |
# | คำศัพท์ | คำแปล / ความหมาย |
---|---|---|
35 | KNOCK OUT | คือ การแข่งขันแบบแพ้คัดออก |
36 | LOSING HAZARD | ให้ดูคำอธิบาย IN - OFF |
37 | MATH | คือ จำนวนเกมที่ตกลงกันหรือกำหนดให้ว่าจะต้องเล่น |
38 | MAXIMUM BREAK | คือ การทำแต้ม 147 แต้ม ในการแทงไม้เดียว |
39 | MISS | เกิดขึ้นเมื่อลูกแทงพลาดจากการกระทบลูกในเที่ยวแทง |
40 | NOMINATED BALL | คือ ลูกเป้าที่ “ผู้แทง” ระบุหรือแสดงให้ผู้ตัดสินทราบจนเป็นที่พอใจ ซึ่งเขารับรองว่าจะต้องถูกกระทบเป็นลูกแรก เมื่อร้องขอโดยผู้ตัดสินผู้แทงจะต้องแจ้งให้ทราบว่า ลูกใดเป็นลูกในเที่ยวแทง |
41 | OBJECT BALL | คือ ลูกเป้า ประกอบด้วย ลูกแดง 15 ลูก และลูกสี 6 ลูก |
42 | PLAIN BALL | การแทงโดยให้หัวคิวกระทบกับศูนย์กลางของลูกขาว |
43 | PLAINS | คือ การแทงให้ลูกขาวกระทบกับลูกเป้าลูกหนึ่ง และไปแคนนอนกับลูกเป้าอีกลูกหนึ่งแล้วลงหลุมไป |
44 | POT | การตบหลังเกิดขึ้นเมื่อลูกเป้าภายหลังจากถูกกระทบ โดยลูกแทงหรือจากลูกใดลูกหนึ่งลงหลุมไป เรียกว่า “ตบหลัง” |
45 | PUSH STROKE | ไม้ยาวเกิดขึ้นเมื่อหัวคิวยังคงสัมผัสลูกแทงอยู่ ภายหลังจากลูกแทงเคลื่อนไปข้างหน้าแล้ว |
46 | PYRAMID SPOT | คือ ตำแหน่งของจุดชมพู |
47 | ROUND ROBIN | คือ การแข่งขันแบบพบกันหมด |
48 | SCREW | การแทงให้หัวคิวกระทบกับลูกยาวตรงตำแหน่ง 6 นาฬิกา เพื่อให้ลูกขาวหลังจากกระทบกับลูกเป้าแล้วไม่เคลื่อนที่ไปข้างหน้า |
49 | SET | ถ้าเกี่ยวกับการเตรียมการของผู้ตัดสินก็เป็นการ ตั้งลูกเพื่อเปิดเกมส์ |
50 | SIDE SPIN | เป็นการแทงลูกขาวตรงตำแหน่งข้างลูกขาว เพื่อให้ลูกขาวเปลี่ยนมุมสะท้อนออกจากคุช ชั่น |
51 | SNOOKER | ลูกแทงถือว่าถูกสนุกเกอร์ เมื่อการแทงเป็นเส้นตรงไปยังลูกในเที่ยวแทงถูกลูกอื่นบังอยู่ทั้งลูก หรือบางส่วน ถ้าลูกในเที่ยวแทงลูกหนึ่งลูกใด สามารถจะถูกแทงให้ถูกขอบปลายสุดทั้งสองข้างได้โดยไม่ถูกลูกอื่น ลูกแทงนั้นไม่ถูกสนุกเกอร์ |
52 | SPOTS | มีจุด 4 จุด ตั้งอยู่บนแนวกึ่งกลางของโต๊ะตามทางยาวคือ 1. จุดสปอต ( เรียกว่า “จุดดำ” ) ห่างจากจุดกับขอบด้านในของคุชชั่นบน 12/3.4 นิ้ว 2. จุดเซ็นเตอร์ ( เรียกว่า “จุดน้ำเงิน” ) ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างขอบคุชชั่นบนกับคุชชั่นล่าง 3. จุดปิรามิด ( เรียกว่า “จุดชมพู” ) ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างขอบคุชชั่นบนกับ “จุดน้ำเงิน” 4. จุดกลางของเส้นเมือง ( เรียกว่า “จุดน้ำตาล” ) อีก 2 จุดตั้งอยู่บนมุมของ “D” มองจากในเมือง จุดที่อยู่มุมขวาเรียกว่า “จุดเหลือง” จุดที่อยู่มุมซ้ายเรียกว่า “จุดเขียว” |
53 | SPOT OCCUPIED | จุดใดที่ถือว่ามีลูกอื่นครองอยู่ เมื่อไม่สามรถตั้งบนจุดนั้นโดยไม่สัมผัสกับลูกอื่นๆ |
54 | STALE MATE | เป็นลักษณะของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะแข่งขัน ที่ทำให้สถานการณ์ของเฟรมนั้นไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเราเรียกว่า “สถานการณ์จุดอับ” |
55 | STANDARD TABLE | โต๊ะมาตรฐาน ต้องมีขนาด 11 ฟุต 8/1.5 นิ้วx 5 ฟุต 10 นิ้ว ( 3,569 มม. x 1,7778 มม. ) โดยมีความคลาดเคลื่อนได้ ± 1.5 นิ้ว ( ± 13 มม. ) ความสูงอยู่ระหว่าง 2 ฟุต 9/15 นิ้ว ถึง 2 ฟุต 10/1.5 นิ้ว ( 851 มม. ถึง 876 มม. ) โต๊ะจะมีหลุมอยู่ตามมุม ( 2 หลุม ทางด้าน “จุดสปอต” ซึ่งเรียกว่า “หลุมมุมบน” อีก 2 หลุม ทางด้านในเมือง ซึ่งเรียกว่า “หลุมมุมล่าง” และมีหลุมที่กึ่งกลางทางด้านยาวอีกข้างละ 1 หลุม เรียกว่า “หลุมกลาง” ขนาดต่างๆของหลุมจะต้องเป็นไปตามแม่แบบ ( เทมเพลท ) ซึ่งได้รับการรับรองของสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก ( WPBSA ) |
56 | STANCE | การยืนท่ามาตรฐาน |
57 | STRIKER | ผู้แทงผู้ที่กำลังจะเข้าเล่นหรือกำลังเล่นอยู่จะเป็น “ผู้แทง” และจะเป็นผู้แทงอยู่จนกระทั่งผู้ตัดสินเห็นว่า เขาได้ออกจากโต๊ะไปเมื่อจบเที่ยวแทงแล้ว |
58 | STROKE | การแทงเริ่มขึ้นเมื่อ “ผู้แทง” แทง “ลูกแทง” ด้วยส่วนของหัวคิว การแทงจะสมบรูณ์เมื่อลูกทุกลูกได้หยุดกับที่แล้ว |
59 | STUN | เป็นการแทงลูกขาวในตำแหน่งต่ำกว่าจุดศูนย์กลางของลูกขาว เพื่อไม่ให้ลูกขาววิ่งไปมากหลังกระทบกับลูกเป้าแล้ว |
60 | SWERVE SHOT | การแทงให้ลูกขาววิ่งเป็นแนวโค้ง |
61 | THE “D” | ครึ่งวงกลมซึ่งเขียนไว้ในเมือง โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่กึ่งกลางของ “ส้นเมือง” และมีรัศมี 11/1.5 นิ้ว ( 292 มม. ) |
62 | TOP POCKET | คือ หลุมมุมบน |
63 | TOP SPIN | การแทงให้หัวคิวกระทบกับลูกขาว ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกาเพื่อให้ลูกขาวหลังกระทบลูกเป้าแล้วยังคงวิ่งไปข้างหน้าอีก |
64 | TOTAL CLEARANLE | คือ การแทงลูกให้หมดโต๊ะ |
65 | TOUCHING BALL | ถ้าลูกแทงติดกับลูกใดลูกหนึ่งซึ่งเป็นลูกในเที่ยวแทง หรืออาจเป็นลูกในเที่ยวแทงผู้ตัดสินจะประกาศว่า “ลูกติด” |
66 | WINNIG HAZARD | ให้ดูคำอธิบายของคำว่า POT |
67 | YELLOW SPOT | คือ ตำแหน่งของจุดเหลือง |
«« ก่อนหน้า |